ผ้าฝ้าย (Cotton) จัดว่าเป็นผ้าที่มาจากเส้นใยธรรมชาติที่ขึ้นชื่อว่าสวมใส่สบาย เพราะระบายอากาศได้ดี ด้วยเหตุนี้ผ้าฝ้ายจึงได้รับความนิยมในการนำมาผลิตเสื้อผ้าเป็นอย่างมาก แต่ว่าผ้าฝ้ายก็ยังมีข้อด้อยคือ เนื้อผ้ามีความหยาบอยู่เล็กน้อย ด้วยเหตุนี้จึงได้มีการพัฒนาผ้าฝ้ายให้กลายมาเป็น ผ้าซุปเปอร์ซอฟ (Super Soff)
ประวัติของผ้าซุปเปอร์ซอฟ
ผ้าซุปเปอร์ซอฟ เป็นผ้าที่มีการพัฒนาต่อยอดมาจากผ้าฝ้ายเพื่อให้มีคุณสมบัติที่ดียิ่งขึ้น เนื่องจากตัวผ้าฝ้ายนั้น ถึงแม้จะระบายอากาศได้ดี แต่ก็มีความอ่อนนุ่มไม่มาก ดังนั้นเวลาสวมใส่จึงรู้สึกระคายผิวบางเล็กน้อย ดังนั้นผู้ผลิตจึงหากระบวนการผลิตและขั้นตอนที่จะทำให้ผ้าฝ้ายมีความอ่อนนุ่มมากขึ้น เช่น การนำไปผสมกับเส้นใยโพลีเอสเตอร์ การทำให้เส้นใยให้มีขนาดเล็กลง เป็นต้น ซึ่งการทำเช่นนั้นทำให้ผ้าฝ้ายหรือผ้าคอตตอนที่หลายคนเรียกกันมีความนุ่มมากขึ้น แต่ก็ไม่เทียบเท่ากับผ้าซุปเปอร์ซอฟ ที่ทำการผลิตด้วยกระบวนการ Carbonized Brushing
กระบวนการ Carbonized Brushing หรือรู้จักกันอีกชื่อหนึ่งว่า Micro Brushing ซึ่งอุปกรณ์ที่ใช้ในการขัดผิวของผ้าจะเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการเจียระไนเพชร จึงทำให้มีความละเอียดสูงมาก โดยการขัดจะนำผ้าส่วนที่เป็นหน้าเรียบเข้าไปทำการขัด ส่งผลให้หน้าผ้ามีความฟูขึ้น และขนาดของหัวขัดที่มีขนาดเล็กมา ทำให้ความฟูของผ้ามีความฟูที่เท่ากันทั้งผืนผ้า ทำให้ผิวสัมผัสของผ้ามีความนุ่มเป็นพิเศษนั่นเอง ซึ่งความนุ่มที่เกิดขึ้นนี้จะให้ผิวสัมผัสที่นุ่มคล้ายคลึงกับผ้ากำมะหยี่เลยทีเดียว
นอกจากผิวสัมผัสที่นุ่มขึ้นราวกับกำมะหยี่แล้ว คุณสมบัติอย่างอื่นของผ้าฝ้ายก็ยังคงอยู่เช่นเดียวกัน ด้วยเหตุนี้ ผ้าซุปเปอร์ซอฟจึงเป็นผ้าที่ได้รับความนิยมสูงมาก ในการนำมาตัดเย็บเสื้อ โดยเฉพาะการนำมาผลิตเสื้อยืด เกรดแบรนด์ หรืองานแฟชั่น รวมถึงนำมาผลิตเป็นชุดทำงาน เพราะมีความนิ่มสูง ทำให้ใส่สบายนั่นเอง
ข้อดีของผ้าซุปเปอร์ซอฟ
ผ้าชนิดนี้ได้รับการพัฒนาขั้นตอนการผลิตให้มีความทันสมัย ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า บวกกับคุณสมบัติที่ดีอยู่แล้วของผ้าฝ้าย ทำให้ผ้าซุปเปอร์ซอฟ มีข้อดีดังนี้
1. เนื้อผ้านุ่ม
ความนิ่มของผ้าถือว่าเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่มีผ้าชนิดใดเทียบได้ ไม่ว่าจะเป็นผ้าฝ้ายที่มีขนาดเส้นเล็กมากขนาดไหนก็ไม่มีความนุ่มเท่ากับผ้าซุปเปอร์ซอฟ เพราะว่าขั้นตอนการผลิตมีการใช้หัวขัดชนิดเดียวกับที่ใช้ขัดเพชร ซึ่งมีขนาดเล็กและความแหลมคม เมื่อนำมาขัดเนื้อผ้าจึงทำให้เนื้อผ้ามีความฟูที่ละเอียดและมีขนาดที่เท่ากันทั้งผืนผ้า ทำให้ไม่ว่าจะสัมผัสส่วนไหนของผ้าก็ให้ความรู้สึกนุ่มเหมือนกันทั้งผืน ยิ่งเวลาที่สัมผัสกับผิวกายเวลาใส่ก็ให้ความรู้สึกสบายไม่ต่างกัน
2. ไม่หดตัว
เส้นใยที่นำมาถักทอเป็นผืนผ้าได้รับการผลิตมาเป็นอย่างดี เนื่องจากในขั้นตอนการผลิตมีการกระบวนการยืดเส้นใยน้อยมาก ทำให้ผ้าไม่ได้รับแรงดึงเพื่อให้ผ้านุ่มและบาง แต่ใช้เป็นแรงขัดเพื่อทำให้ผ้านุ่มแทน ดังนั้นเมื่อนำผ้าซุปเปอร์ซอฟไปทำการตัดเย็บเสื้อจึงไม่มีการหดตัวกลับเมื่อโดนน้ำ
3. ไม่ย้วย
อย่างที่ทราบว่าผ้าซุปเปอร์ซอฟไม่มีกระบวนการยืดผ้าระหว่างการผลิต ทำให้ผ้าที่ได้มีความคงตัวสูง ดังนั้นเมื่อทำการซักจึงยังสามารถคงตัวได้เช่นเดิม ไม่ย้วยเนื่องจากสารเคลือบเส้นใยหลุดออกไป ไม่ว่าจะทำการซักกี่ครั้งก็ตาม ผ้าจะยังคงรูปตามการตัดเย็บ
4. ไม่เป็นขน
เนื่องจากพื้นผิวด้านหน้าของผ้าซุปเปอร์ซอฟมีการขัดจนขึ้นเป็นขนอยู่แล้ว ซึ่งขนที่มีอยู่นั้นมีขนาดเล็กและมีความหนาแน่นสูงอยู่แล้ว ดังนั้นเมื่อนำไปทำการซัก เส้นใยก็จะไม่เกิดขนขึ้นได้อีก จึงทำให้ชุดที่ผลิตจากผ้าชนิดนี้ไม่มีขนเกิดขึ้นหลังการซัก
5. ระบายอากาศได้ดี
ผ้าฝ้ายเป็นผ้าที่สามารถดูดซับความชื้นได้เป็นอย่างดีอยู่แล้ว และยิ่งมีขนขนาดเล็กอยู่บนเส้นใยด้วยจะยิ่งทำให้ความสามารถในการดูดซับความชื้น ดีขึ้นอีกหลายเท่า เมื่อทำการซับเหงื่อและความชื้นตามร่างกายแล้ว ยังสามารถระบายความชื้นออกจากเนื้อผ้าได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย ดังนั้นเวลาที่สวมใส่ชุดที่ผลิตจากผ้าซุปเปอร์ซอฟจึงไม่รู้สึกอับชื้นจากเหงื่อที่เกิดขึ้น
ข้อเสียของผ้าซุปเปอร์ซอฟ
ผ้าซุปเปอร์ซอฟเป็นผ้าที่ผลิตจากเส้นใยธรรมชาตินำมาผ่านกระบวนในการผลิตด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง ดังนั้นราคาต้นทุนในการผลิตจึงสูงกว่า ทำให้ราคาจำหน่ายของผ้าชนิดนี้สูงกว่าผ้าฝ้ายแบบอื่น ซึ่งนี่คือข้อเสียเพียงอย่างเดียวของผ้าชนิดนี้ เพราะว่าการพัฒนาที่เกิดขึ้นก็เพื่อลดข้อด้อยของผ้าฝ้ายให้หมดไป จึงทำให้ผ้าซุปเปอร์ซอฟไม่มีข้อเสียในด้านคุณสมบัติ นอกเหนือจากราคาที่ค่อนข้างสูงนั่นเอง
วิธีการดูแลรักษาผ้าซุปเปอร์ซอฟ
การดูแลรักษาชุดที่ทำการตัดเย็บมาจากผ้าซุปเปอร์ซอฟ เพื่อให้เนื้อผ้ามีความคงตัว สวยงามและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน คือ
1. ซักด้วยน้ำธรรมดา
ประเทศไทยเป็นเมืองร้อน ดังนั้นน้ำธรรมดาก็ถือว่ามีอุณหภูมิที่เหมาะสม (ประมาณ 30 องศาเซลเซียส) กับการซักผ้าซุปเปอร์ซอฟ ไม่จำเป็นต้องใช้ระบบน้ำอุ่นในการซักผ้า แต่อย่าซักด้วยน้ำเย็นหรือน้ำร้อน เพราะน้ำที่เย็นจัดหรือร้อนจัดจะค่อย ๆ ทำลายคุณสมบัติของเส้นใยตามธรรมชาติให้สูญเสียไปได้
2. ซักด้วยน้ำยาสูตรอ่อนโยน
สารเคมีที่มีความรุนแรง โดยเฉพาะน้ำยาซักผ้าขาวหรือขจัดคราบสกปรกมากจะเข้าไปทำลายเส้นใย ทำให้เส้นใยมีความเปราะบางและขาดง่าย ยิ่งซักบ่อย เส้นใยของผ้าก็จะขาดเร็วขึ้น ดังนั้นการซักควรซักด้วยน้ำยาสูตรอ่อนโยนเพื่อช่วยถนอมเนื้อผ้า
3. ห้ามขัดด้วยแปรง
แปรงถูผ้ากับผ้าซุปเปอร์ซอฟเป็นของที่ควรให้อยู่ห่างไกลกัน เพราะว่าเส้นใยผ้ามีความอ่อนนุ่มเป็นพิเศษ หากกระทบกับแปรงถูผ้าด้วยความรุนแรงแล้ว จะทำให้เส้นใยเกิดการขาด ย้วยได้ง่าย ดังนั้นการซักผ้าไม่ควรใช้แปรงถูผ้าในการขัด แต่ให้การขยี้มือแทนเพื่อขจัดสิ่งสกปรกที่ติดอยู่บนตัวเสื้อ
ผ้าซุปเปอร์ซอฟ เป็นผ้าที่มีคุณสมบัติน่าใช้งาน เหมาะกับสภาวะอากาศบ้านเราที่ร้อนชื้น เพราะเป็นเนื้อผ้าที่ใส่สบาย แม้ว่าจะมีราคาที่ค่อนข้างสูง แต่หากได้รับการดูแลรักษาอย่างถูกวิธีแล้ว รับรองว่าชุดจากผ้าซุปเปอร์ซอฟจะมีอายุการใช้งานนานหลายปี คุ้มค้ากับราคาแน่นอน